ต้นมะขามยักษ์อายุกว่า 300 ปีเกิดเสียงดังลั่นก่อนจะล้มกลางลานวัดแจ้ง จ.พัทลุง กิ่งมะขามได้ไปถูกหลังคากุฏิและหลังคาโรงรถได้รับความเสียหายเล็กน้อย และหลังเกิดเหตุชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดแจ้งได้นิมนต์พระจำนวน 4 รูป ได้ทำพิธีสวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 พ.ย.) ชาวบ้านได้เข้าไปตรวจสอบกรณีที่ต้นมะขามขนาดใหญ่อายุมากกว่า 300 ปี ที่อยู่ภายในวัดแจ้ง หมู่ที่ 1 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง อยู่ๆ ก็เกิดเสียงดังลั่น ก่อนที่จะล้ม กิ่งมะขามได้ไปถูกหลังคากุฏิและหลังคาโรงรถได้รับความเสียหายเล็กน้อย และหลังเกิดเหตุชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดแจ้งได้นิมนต์พระจำนวน 4 รูป ได้ ทำพิธีสวดและกรวดน้ำอีกด้วย

พระครูสิทธิการโสภณ หรือ พระอาจารย์ผ่อง เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ต.ชัยบุรี กล่าวว่า ขณะที่กำลังจำวัดอยู่ในกุฏิก็ได้ยังเสียงดังลั่น และอยู่ๆ ต้นมะขามที่อยู่บริเวณหน้ากุฏิก็ล้มลง แต่เคราะห์ดีต้นมะขามที่ยื่นติดอยู่กับกุฏิพระลูกวัด ไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนัก มีเพียงแค่กิ่งมะขามเล็กๆ ฟาดไปถูกหลังคากุฏิกระเบื้องแต่เล็กน้อย

สำหรับต้นมะขามที่ล้มลงเมื่อตอนของวันนี้ เป็นต้นมะขามขนาดใหญ่และมีอายุอยู่คู่กับวัดมาช้าแล้วประมาณ 300 ปี ขณะเกิดเหตุฝนก็ไม่ตก และไม่มีลมพัดแต่อย่างใด สันนิษฐานว่าต้นมะขามคงหมดอายุ เพราะบริเวณส่วนรากผุเกือบจะไม่เหลือรากไว้ยึดดินแล้ว

ด้าน นายประสพ พงศ์จันทร์เสถียร เผยว่า ต้นมะขามขนาดใหญ่ที่อยู่ๆ ก็ล้มโดยไม่มีแรงลมและฝนก็ไม่ตกนั้น เป็นต้นมะขามที่ชาวบ้านเห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ และเชื่อกันว่าเป็นต้นมะขามที่มีมาตั้งแต่สมัยตั้งเมืองชัยบุรี ก่อนหน้านี้ทางวัดต้องการที่จะก่อสร้างกุฏิเพิ่มในวัด ตรงที่ต้นมะขามยืนอยู่ แต่ชาวบ้านไม่มีใครกล้าที่จะโค่นต้นมะขาม เพราะเชื่อว่าเป็นต้นไม้ใหญ่อยู่คู่วัดมาช้านาน

ทางวัดจึงได้ ก่อสร้างกุฏิหลังใหญ่ ติดอยู่กับต้นมะขาม และกิ่งมะขามก็ได้ขยายปกคลุมหลังคากฏิ แต่เมื่อต้นมะขามล้ม ก็ไม่น่าเชื่อว่า ต้นมะขามได้ล้มไปยังทิศทางที่ว่างเปล่า ไม่ได้ทำความเสียหายให้กับวัดเลย เพราะถ้าหากล้มทับกุฏิ ก็มีพระ รถยนต์ของวัด รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆก็อยู่ในกุฏิจำนวนมาก

และหลังเกิดเหตุชาวบ้านที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่วัดก็พูดกันว่า ต้นมะขามลั่นเสียงดังและหมุนลำต้น ล้มไปทิศทางที่ว่างระหว่างกุฏิได้อย่างไม่น่าเชื่อ กลุ่มชาวบ้านจึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนไปจุดวางโค่นต้นมะขาม เพื่อขอโชคลาภในงวดที่จะถึงนี้